เงินบาทแข็งค่า รับเฟดอัดฉีดด่านศุลกากร

  • 285


กรุงศรี คาดเงินบาทค้าขาย กรอบ 29.90-30.15 จับตาการผลักดันและส่งเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด
นางสาวรุ่ง รักษาเรือง ผู้อำนวยการ ข้างช่วยเหลือธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ แบงค์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) คิดว่า ในอาทิตย์นี้จุดสนใจหลักของตลาดจะอยู่ที่การสัมมนาเฟด‪วันที่ 26-27 เดือนมกราคม ซึ่งคาดว่าการติดต่อสื่อสารกับตลาดเพื่อเน้นคำสัตย์ที่จะเกื้อหนุนการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจเป็นเวลานาน ทั้งความคิดเห็นของเฟดที่มีต่อการปรับพฤติกรรมสูงมากขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกาตั้งแต่แมื่อต้นปีจะเป็นเหตุชี้แนะสำคัญต่อแนวทางค่าเงินดอลลาร์ ยิ่งกว่านั้น นักลงทุนจะจับตาข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/63 ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งแนวโน้มการช่วยส่งเสริมมาตรการกระตุ้นทางการคลังเก็บของซึ่งผู้นำไบเดนเคยเสนอไว้มากถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในตอนที่กรุงศรีคาดว่าจะมีการตัดทอนขนาดของมาตรการลงสุดท้าย ในสภาวะแบบนี้ คาดว่าตลาดอัตราแลกเปลี่ยนบางทีอาจย่ำฐานตอนสั้นเพื่อรอคอยความแจ่มชัดถัดไป‬
สำหรับเหตุในประเทศนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานการส่งออกขยายตัว 4.71% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีกลายหน้า ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 22 เดือน ตามแนวทางเศรษฐกิจโลกรวมทั้งเศรษฐกิจคู่ค้า ดังนี้ ในปี 2563 ราคาส่งออกลดน้อยลง 6.01% ช่วงเวลาที่ยอดนำเข้าหดตัว 12.39% นำมาซึ่งการทำให้ไทยเกินดุลกิจการค้า 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกในปี 2564 นี้จะเติบโตได้ 4%
ส่วนทางด้านรัฐมนตรีคลังเก็บของประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3-4% หากแม้พบเจอกับการระบาดระลอกใหม่ โดยคาดว่าการแพร่ระบาดรอบนี้จะควบคุมได้ด้านในเดือน มี.ค. ในช่วงเวลาที่มีเหตุบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การฟื้นฟูสภาพของภาคส่งออก รวมทั้งกระจัดกระจายวัคซีน ส่วนปริมาณนักเดินทางฝรั่งยังไม่อาจจะฟื้น ยิ่งไปกว่านี้ กระทรวงการคลังยังมีความคิดเห็นว่าดอกแนวนโยบายของไทยต่ำมากมายแล้ว และก็เห็นว่าการคงจะดอกควรจะเดินต่อไปกระทั่งจะแน่ใจว่าเศรษฐกิจฟื้นแจ่มชัด ส่วนใจความสำคัญค่าเงิน ต้องการที่จะให้ธนาคารชาติดูแลเสถียรภาพเพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจสามารถบริหารทุน
ในขณะที่ว่าที่รัฐมนตรีคลังเก็บของรวมทั้งสมัยก่อนประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด) เจเน็ต เยลเลน กำหนดถึงว่าประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากมาตรการแก้ไขขนาดใหญ่มีมากยิ่งกว่าทุนภาระหน้าที่หนี้สินภาครัฐที่มากขึ้น ทางด้านธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)เตือนว่าการติดเชื้อโรค COVID-19 ที่พุ่งขึ้นเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง โดยอีซีบีลงความเห็นอาจจะดอกเงินออมไว้ที่ระดับติดลบ 0.50% แล้วก็อาจจะโควต้าสำหรับเพื่อการซื้อพันธบัตรในแผนการรีบด่วนจากเหตุการณ์โรคระบาด(PEPP) ไว้ที่ 1.85 ล้านล้านยูโร พร้อมที่จะจัดส่งสัญญาณออกมาตรการเสริมเติมแม้ต้อง ดังนี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดค้าหุ้นไทย 3.6 พันล้านบาท แต่ว่าซื้อพันธบัตร 7.2 พันล้านบาท

กรุงศรี คาดเงินบาทค้าขาย กรอบ 29.90-30.15 จับตาการผลักดันและส่งเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด นางสาวรุ่ง รักษาเรือง ผู้อำนวยการ ข้างช่วยเหลือธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ แบงค์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) คิดว่า ในอาทิตย์นี้จุดสนใจหลักของตลาดจะอยู่ที่การสัมมนาเฟด‪วันที่ 26-27 เดือนมกราคม ซึ่งคาดว่าการติดต่อสื่อสารกับตลาดเพื่อเน้นคำสัตย์ที่จะเกื้อหนุนการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจเป็นเวลานาน ทั้งความคิดเห็นของเฟดที่มีต่อการปรับพฤติกรรมสูงมากขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกาตั้งแต่แมื่อต้นปีจะเป็นเหตุชี้แนะสำคัญต่อแนวทางค่าเงินดอลลาร์ ยิ่งกว่านั้น นักลงทุนจะจับตาข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/63 ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งแนวโน้มการช่วยส่งเสริมมาตรการกระตุ้นทางการคลังเก็บของซึ่งผู้นำไบเดนเคยเสนอไว้มากถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในตอนที่กรุงศรีคาดว่าจะมีการตัดทอนขนาดของมาตรการลงสุดท้าย ในสภาวะแบบนี้ คาดว่าตลาดอัตราแลกเปลี่ยนบางทีอาจย่ำฐานตอนสั้นเพื่อรอคอยความแจ่มชัดถัดไป‬ สำหรับเหตุในประเทศนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานการส่งออกขยายตัว 4.71% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีกลายหน้า ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 22 เดือน ตามแนวทางเศรษฐกิจโลกรวมทั้งเศรษฐกิจคู่ค้า ดังนี้ ในปี 2563 ราคาส่งออกลดน้อยลง 6.01% ช่วงเวลาที่ยอดนำเข้าหดตัว 12.39% นำมาซึ่งการทำให้ไทยเกินดุลกิจการค้า 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกในปี 2564 นี้จะเติบโตได้ 4% ส่วนทางด้านรัฐมนตรีคลังเก็บของประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3-4% หากแม้พบเจอกับการระบาดระลอกใหม่ โดยคาดว่าการแพร่ระบาดรอบนี้จะควบคุมได้ด้านในเดือน…

กรุงศรี คาดเงินบาทค้าขาย กรอบ 29.90-30.15 จับตาการผลักดันและส่งเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด นางสาวรุ่ง รักษาเรือง ผู้อำนวยการ ข้างช่วยเหลือธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ แบงค์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) คิดว่า ในอาทิตย์นี้จุดสนใจหลักของตลาดจะอยู่ที่การสัมมนาเฟด‪วันที่ 26-27 เดือนมกราคม ซึ่งคาดว่าการติดต่อสื่อสารกับตลาดเพื่อเน้นคำสัตย์ที่จะเกื้อหนุนการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจเป็นเวลานาน ทั้งความคิดเห็นของเฟดที่มีต่อการปรับพฤติกรรมสูงมากขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกาตั้งแต่แมื่อต้นปีจะเป็นเหตุชี้แนะสำคัญต่อแนวทางค่าเงินดอลลาร์ ยิ่งกว่านั้น นักลงทุนจะจับตาข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/63 ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งแนวโน้มการช่วยส่งเสริมมาตรการกระตุ้นทางการคลังเก็บของซึ่งผู้นำไบเดนเคยเสนอไว้มากถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในตอนที่กรุงศรีคาดว่าจะมีการตัดทอนขนาดของมาตรการลงสุดท้าย ในสภาวะแบบนี้ คาดว่าตลาดอัตราแลกเปลี่ยนบางทีอาจย่ำฐานตอนสั้นเพื่อรอคอยความแจ่มชัดถัดไป‬ สำหรับเหตุในประเทศนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานการส่งออกขยายตัว 4.71% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีกลายหน้า ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 22 เดือน ตามแนวทางเศรษฐกิจโลกรวมทั้งเศรษฐกิจคู่ค้า ดังนี้ ในปี 2563 ราคาส่งออกลดน้อยลง 6.01% ช่วงเวลาที่ยอดนำเข้าหดตัว 12.39% นำมาซึ่งการทำให้ไทยเกินดุลกิจการค้า 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกในปี 2564 นี้จะเติบโตได้ 4% ส่วนทางด้านรัฐมนตรีคลังเก็บของประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3-4% หากแม้พบเจอกับการระบาดระลอกใหม่ โดยคาดว่าการแพร่ระบาดรอบนี้จะควบคุมได้ด้านในเดือน…

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *