
รวบศ.จ.วิศวกรรมต้มฮั้วประมูลเมกะโปรเจกต์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
รวบศ.จ.วิศวกรรมต้มฮั้วประมูลเมกะโปรเจกต์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ้างโครงงานล้มเนื่องจากว่าการบ้านการเมืองแทรกแซง
ตอนวันที่ 3 เดือนมีนาคม ที่กองสั่งงานกำจัด(บก.เปรียญ) พล.ตำบลตำบลสุวัฒน์ แสงสว่างนุ่ม ผบกรัมเปรียญ,พันตำรวจเอกปทักข์ ขวัญทุ่งนา ผู้กำกับการ4 บก.เปรียญ,พันตำรวจตรีกฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.กิโลกรัม4 บก.เปรียญ นำกำลังจับกุมตัว ศ.จ.ไพฑูรย์ ชนชนะ อายุ 74 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดร่ำรวยบุรี ในข้อกล่าวหา “ด้วยกันคดโกงทรัพย์สิน” เหมาะหน้าบ้านพักใน ถนนเทศบาลอนุเคราะห์ ตำบลลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานครคราวหลังเมื่อปี 2560 ศ.จ.แก้วสีไม้ไผ่ ผู้ต้องหาพร้อมพวก ได้ไปตีสนิทผู้เสียหายที่เปิดบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง โดยอ้างตัวว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างขนาดใหญ่เป็นบริษัทสามารถประมูลงานโครงงานก่อสร้างในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ราคานับพันล้านบาท แล้วก็ตระเตรียมเปิดให้บริษัทฯ ผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย เข้าประมูลงานโครงงานก่อสร้างส่วนย่อย ราคาราว 5-6 ล้านบาท ถ้าเกิดผู้เสียถ้าเกิดพึงพอใจก็สามารถช่วยทำให้ได้รับงานดังที่กล่าวถึงแล้วได้ แต่ว่ามีข้อต่อรองว่าต้องชำระเงินค่าดำเนินงานให้กับกรุ๊ปผู้ต้องหาเป็นเงิน 6 แสนบาท เนื่องจากว่ามีความคิดเห็นว่านายไพฑูรย์ มีอาชีพหลักเป็นคุณครู ตำแหน่งศ.จ. สอนในแผนกวิศวกรรม มหาวิทยาลัยโด่งดังหลายที่ มองน่าไว้วางใจก็เลยยอมชำระเงินให้
จนกระทั่งเวลาผ่านไปร่วมปี การปฏิบัติงานกลับเงียบหายไป เมื่อทวงหนี้ก็ถูกเลี่ยง ทั้งเมื่อตรวจดูความเป็นมาของโครงงานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นกลับได้มาพบว่าไม่มีอยู่จริง ก็เลยนำเรื่องแจ้งเหตุที่ สภ.คูคต กระทั่งมีการออกหมายจับ ถัดมาข้าราชการชุดจับกุมตัวสืบรู้ว่าเดี๋ยวนี้ นายไพฑูรย์ ยังคงสอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยตามธรรมดา เพราะยังเป็นคุณครูสอนกวดวิชา แล้วก็มีที่พักอยู่บริเวณ ถนนเทศบาลอนุเคราะห์ ก็เลยนำกำลังเข้าจับตัวได้ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
ไต่สวนนายแก้วสีไม้ไผ่ ให้การยอมรับ กล่าวถึงว่า มิได้มีเจตนาที่จะหลอกผู้เสียหาย แต่ว่าที่ไม่สามารถที่จะทำงานดังที่อ้างถึงไว้ ด้วยเหตุว่ามีเรื่องมีราวการบ้านการเมืองเข้ามาเกี่ยวเนื่อง จนกระทั่งทำให้ไม่ถูกแผนที่วางไว้ทั้งปวง พื้นฐานก็เลยแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง สภ.คูคต ฟ้อง
รวบศ.จ.วิศวกรรมต้มฮั้วประมูลเมกะโปรเจกต์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ้างโครงงานล้มเนื่องจากว่าการบ้านการเมืองแทรกแซง ตอนวันที่ 3 เดือนมีนาคม ที่กองสั่งงานกำจัด(บก.เปรียญ) พล.ตำบลตำบลสุวัฒน์ แสงสว่างนุ่ม ผบกรัมเปรียญ,พันตำรวจเอกปทักข์ ขวัญทุ่งนา ผู้กำกับการ4 บก.เปรียญ,พันตำรวจตรีกฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.กิโลกรัม4 บก.เปรียญ นำกำลังจับกุมตัว ศ.จ.ไพฑูรย์ ชนชนะ อายุ 74 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดร่ำรวยบุรี ในข้อกล่าวหา “ด้วยกันคดโกงทรัพย์สิน” เหมาะหน้าบ้านพักใน ถนนเทศบาลอนุเคราะห์ ตำบลลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานครคราวหลังเมื่อปี 2560 ศ.จ.แก้วสีไม้ไผ่ ผู้ต้องหาพร้อมพวก ได้ไปตีสนิทผู้เสียหายที่เปิดบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง โดยอ้างตัวว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างขนาดใหญ่เป็นบริษัทสามารถประมูลงานโครงงานก่อสร้างในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ราคานับพันล้านบาท แล้วก็ตระเตรียมเปิดให้บริษัทฯ ผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย เข้าประมูลงานโครงงานก่อสร้างส่วนย่อย ราคาราว 5-6 ล้านบาท ถ้าเกิดผู้เสียถ้าเกิดพึงพอใจก็สามารถช่วยทำให้ได้รับงานดังที่กล่าวถึงแล้วได้ แต่ว่ามีข้อต่อรองว่าต้องชำระเงินค่าดำเนินงานให้กับกรุ๊ปผู้ต้องหาเป็นเงิน 6 แสนบาท เนื่องจากว่ามีความคิดเห็นว่านายไพฑูรย์ มีอาชีพหลักเป็นคุณครู ตำแหน่งศ.จ. สอนในแผนกวิศวกรรม มหาวิทยาลัยโด่งดังหลายที่ มองน่าไว้วางใจก็เลยยอมชำระเงินให้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปร่วมปี การปฏิบัติงานกลับเงียบหายไป เมื่อทวงหนี้ก็ถูกเลี่ยง ทั้งเมื่อตรวจดูความเป็นมาของโครงงานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นกลับได้มาพบว่าไม่มีอยู่จริง ก็เลยนำเรื่องแจ้งเหตุที่…
รวบศ.จ.วิศวกรรมต้มฮั้วประมูลเมกะโปรเจกต์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อ้างโครงงานล้มเนื่องจากว่าการบ้านการเมืองแทรกแซง ตอนวันที่ 3 เดือนมีนาคม ที่กองสั่งงานกำจัด(บก.เปรียญ) พล.ตำบลตำบลสุวัฒน์ แสงสว่างนุ่ม ผบกรัมเปรียญ,พันตำรวจเอกปทักข์ ขวัญทุ่งนา ผู้กำกับการ4 บก.เปรียญ,พันตำรวจตรีกฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.กิโลกรัม4 บก.เปรียญ นำกำลังจับกุมตัว ศ.จ.ไพฑูรย์ ชนชนะ อายุ 74 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดร่ำรวยบุรี ในข้อกล่าวหา “ด้วยกันคดโกงทรัพย์สิน” เหมาะหน้าบ้านพักใน ถนนเทศบาลอนุเคราะห์ ตำบลลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานครคราวหลังเมื่อปี 2560 ศ.จ.แก้วสีไม้ไผ่ ผู้ต้องหาพร้อมพวก ได้ไปตีสนิทผู้เสียหายที่เปิดบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง โดยอ้างตัวว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการก่อสร้างขนาดใหญ่เป็นบริษัทสามารถประมูลงานโครงงานก่อสร้างในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ราคานับพันล้านบาท แล้วก็ตระเตรียมเปิดให้บริษัทฯ ผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย เข้าประมูลงานโครงงานก่อสร้างส่วนย่อย ราคาราว 5-6 ล้านบาท ถ้าเกิดผู้เสียถ้าเกิดพึงพอใจก็สามารถช่วยทำให้ได้รับงานดังที่กล่าวถึงแล้วได้ แต่ว่ามีข้อต่อรองว่าต้องชำระเงินค่าดำเนินงานให้กับกรุ๊ปผู้ต้องหาเป็นเงิน 6 แสนบาท เนื่องจากว่ามีความคิดเห็นว่านายไพฑูรย์ มีอาชีพหลักเป็นคุณครู ตำแหน่งศ.จ. สอนในแผนกวิศวกรรม มหาวิทยาลัยโด่งดังหลายที่ มองน่าไว้วางใจก็เลยยอมชำระเงินให้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปร่วมปี การปฏิบัติงานกลับเงียบหายไป เมื่อทวงหนี้ก็ถูกเลี่ยง ทั้งเมื่อตรวจดูความเป็นมาของโครงงานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นกลับได้มาพบว่าไม่มีอยู่จริง ก็เลยนำเรื่องแจ้งเหตุที่…