
ถอดรหัสงานมอบหนังสือหอสมุดอย่างไรให้มีคุณประโยชน์กับเด็กๆ
ถอดรหัสงานมอบหนังสือหอสมุดอย่างไรให้มีสาระกับเด็กๆ
แผนการมอบหนังสือให้กับหอสมุดสถานที่เรียนทั่วทั้งประเทศที่แบงค์กรุงเทวดา ร่วมกับสถานที่พิมพ์บทกลอนสาส์น จัดขึ้นสม่ำเสมอมาถึง 12 ปี โดยมีหนังสือหลายหมื่นเล่มกระจัดกระจายไปทั่วห้องหนังสือสถานที่เรียนในประเทศไทยแล้วหลายพันที่
การมอบหนังสือให้กับสถานศึกษาอีกทั้งในจ.กรุงเทพฯ และก็ชนบทในโครงงานนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในแผนการ CSR ที่แบงค์กรุงเทวดา ให้ความเอาใจใส่มากมายก่ายกอง ด้วยเหตุว่าแลเห็นว่าการอ่านเป็นหลักฐานการศึกษาวิจัยที่ดีที่จะทำให้เปิดโลกวิชาความรู้รวมทั้งจินตนาการของเด็กๆได้อย่างดีเยี่ยม
ด้วยเหตุดังกล่าวหน้าที่การคัดสรรหนังสือที่ดีแล้วก็เหมาะสมกับผู้เรียนก็เลยเป็นหน้าที่ของสถานที่พิมพ์กวีสาส์น ที่จะต้องทำการบ้านอย่างมาก โดยในแต่ละปีเรื่องการมอบหนังสือจะนาๆประการ เพื่อหนังสือที่มีหลายหมวดได้เข้าถึงผู้เรียนและก็ปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์
นายเอื้อเฟื้อ เตชะผู้สร้าง กรรมการผู้จัดการ สถานที่พิมพ์บทกลอนสาส์น เล่าถึงกรรมวิธีการเลือกหัวข้อหนังสือในแต่ละปีเพื่อกำเนิดไม่เหมือนกันและไม่ซ้ำซาก และก็โดยมากเป็นหนังสือแปลมาจากทั้งโลก เป็นหนังสือที่มีคุณประโยชน์รวมทั้งหาอ่านทั่วๆไปมิได้ ด้วยเหตุดังกล่าวค่าของหนังสือไม่ใช่แค่เป็นหนังสือที่ได้รับไปฟรีๆแม้กระนั้นเป็นหนังสือดีๆที่เด็กควรจะมีจังหวะได้เข้าถึง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของแบงค์กรุงเทวดา ที่ต้องการให้นำของใหม่ๆวิชาความรู้ที่ทันยุคทันสมัยมาช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับเด็กๆได้ทำความเข้าใจอย่างไม่จำกัดภายใต้ข้อกำหนดที่สถานที่เรียนหลายที่จำเป็นต้องพบเจอ
โครงงานนี้ได้เวลาจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พุทธศักราช2553 ใช้ชื่อว่า แผนการมอบหนังสือชุด “ทรัพย์สินสิ่งที่มีราคา” ระดับประถมศึกษา ชุด ปรับปรุงค่าชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ค่า 4 ล้านบาท) ในคราวนี้ ได้ดำเนินกิจกรรม : การฝึกฝนการใช้หนังสือ ชุด “ทรัพย์สินของล้ำค่า” ชุด ปรับปรุงค่าชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้รับเกียรติยศจาก คำเล่าลือรัตน์ในจังหวัดระนอง ซึ่งในตอนนั้นด้อยกว่าผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ที่จุฬาลงแขนณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ความเข้าใจแก่คณะครูที่ร่วมกิจกรรมในตอนนั้น
ครั้งที่ 2 ปี 2554 (13 มกราคม 2554) ใช้ชื่อว่า แผนการมอบหนังสือชุด “นิทานร่าเริงแจ่มใส” ชุด Mr. Men and Little Miss (ราคา 5 ล้านบาท) มีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์เป็น การแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างการเล่านิทานเรื่อง คุณแสนสุข (Mr. Happy) กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นแถวทางให้อาจารย์บรรณารักษ์ได้นำหนังสือไปสร้างกิจกรรมให้มีแบบที่เหมาะสมกับเด็กนักเรียนในสถานที่เรียนรวมทั้งสอดคล้องกับรายละเอียดของหนังสือ
ครั้งที่ 3 ปี 2554 (7 ธันวาคม 2554) ชื่อว่า โครงงานมอบหนังสือชุด “ทรัพย์สินสิ่งล้ำค่า” ระดับม. ชุด ปรับปรุงค่าชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ราคา 5 ล้านบาท) กิจกรรมในคราวนี้ได้รับเกียรติยศจาก ฯพณฯ คำเลื่องลือรัตน์ในจังหวัดระนอง รองนายกฯแล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มาแสดงคำปาฐกถาในประเด็น “วิถีทางเศรษฐกิจพอเพียง ในบริบทเศรษฐกิจโลก (Globalization) และก็หลักการของรัฐบาล” ด้วย
เมื่อการจัดกิจกรรมผ่านมาแล้วหลายคราว มีประสบการณ์แล้วหลายหน ก็เลยทำให้การจัดงานในครั้งที่ 4 ปี 2554 (11 เดือนธันวาคม 2555) มีแนวทางแล้วก็แบบอย่างการจัดกิจกรรมที่แน่ชัด และก็น่าดึงดูดเพิ่มมากขึ้น และก็ยังคงเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์แก่อาจารย์ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ตามความจำนงของการจัดงานดังเช่นว่าเดิม
ครั้งที่ 4 นี้ ใช้ชื่อว่า แผนการหนังสือชุด “ยิ้มกับนิทานสองภาษา Tan Tan Start and Rhythm Books” (ค่า 8 ล้านบาท) โดยมีกิจกรรมสำคัญหมายถึงการแสดงละครเวทีเรื่องหนังสือที่รู้จัก เพื่อแสดงแล้วก็อบรมในเรื่องที่เกี่ยวของกับการเล่านิทานสองภาษาในลักษณะต่างๆอีกทั้งกิจกรรมการอ่านหนังสือเสริมประจำสถานที่เรียน (School Reading Camp) รวมทั้ง กิจกรรมการอ่านประจำครอบครัว (Family Reading Camp) ในสไตล์นิทานเล่า-ละครเพลง (The Musical Story-Telling) โดยดาราหนังแล้วก็เล่านิทานเพลงที่มีประสบการณ์สูง จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒผสานมิตร อีกทั้งมีการเขียนเพลงขึ้นใหม่เป็นพิเศษเพื่อเหมาะสมกับรายละเอียดของกิจกรรมด้วย ซึ่งสร้างความพึงพอใจ รวมทั้งความซาบซึ้งให้กับคณะครูที่ร่วมกิจกรรมในวันนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ครั้งที่ 5 ปี 2556 (24 เดือนธันวาคม 2556) ใช้ชื่อว่า แผนการมอบหนังสือชุด “นิทานอาเซียนแสนสนุกสนานสองภาษา (Bilingual ASEAN Series) เพิ่มเติมกิจกรรมบูรณาการ” แล้วก็ได้ชวน น้ำผึ้ง ณัฐริกา ธรรมสุขใจความสนุกสนาน ผู้แสดงฝ่ายหญิงมากมายความสามารถ มาร่วมเล่นละครเพลงเรื่อง “ก่อนดอกไม้จะบาน” ถ่ายทอดหน้าที่ของคุณครูสาวผู้ทุ่มเทอีกทั้งหัวใจ เพื่อศิษย์รักการศึกษาเล่าเรียนแล้วก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต ซึ่งละครหัวข้อนี้ช่วยสะท้อนให้มองเห็นถึงหน้าที่อันสำคัญของอาจารย์ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ
รวมทั้งได้รับเกียรติยศจาก ฯพณฯ คำเลื่องลือรัตน์ในจังหวัดระนอง ซึ่งในช่วงเวลานั้นครอบครองตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาร่วมกล่าวเปิดงานในคราวนั้นด้วย ซึ่งวาระนั้นท่านได้ชูเอากลุ่มคำของ ออเดรย์ เฮปเบิร์น ที่ว่า “คุณอาจเป็นเพียงแค่คนคนหนึ่งบนโลกใบนี้ แต่ว่าบางทีอาจเป็นโลกอีกทั้งใบของใครสักคน” มากยิ่งกว่าเดิมล่าวได้อย่างเหมาะควรกับเหตุการณ์ ซึ่งสะท้อนให้มองเห็นถึงจุดสำคัญของอาจารย์ที่มีต่อเด็กนักเรียนแต่ละคนได้ดีเยี่ยม จนกระทั่งสร้างความซาบซึ้งให้กับคณะครูที่มาร่วมงานในวันนั้นอย่างยิ่ง
ครั้งที่ 6 (23 เดือนธันวาคม 2557) จัดขึ้นในชื่อโครงงาน มอบหนังสือชุด ‘เด็กน้อยท่องโลกกว้างกับนิทานสองภาษา เพิ่มเติมชุดกิจกรรมสภาพแวดล้อมรอบข้าง’ (ราคา 8 ล้านบาท)
ในวาระนั้นมีกิจกรรมการแสดง ชุด “ร้อย…ล้าน…คำพูดขอบคุณ” จากน้องๆผู้แทนเด็กนักเรียนในสังกัดจังหวัดกรุงเทพมหานคร พร้อมไฮไลท์พิเศษเป็นการแสดงโชว์ครึ่งหนึ่งทอล์กชุด “เชิดคนกระบอก” โดย “อิง ลำพระไฟ” ผู้กำกับหนัง ดาราหนัง แล้วก็นักประพันธ์ ซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับกิจกรรมวันนั้นได้ดีเยี่ยม
ครั้งที่ 7 (18 เดือนธันวาคม 2558) คราวนี้กวีสาส์นมีการเคลื่อนทัพชูคณะทำงานล่องใต้ ไปดำเนินกิจกรรมมอบหนังสือให้น้องๆที่ภาคใต้ ในชื่อโครงงาน มอบหนังสือชุด “เปิดโลกภาษา ปันวิชาความรู้ สู่หอสมุด : เพื่อน้องจังหวัดภาคใต้” (ค่า 8 ล้านบาท) มีการดำเนินกิจกรรมที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของศิลปะท้องถิ่นภาคใต้อย่างการแสดงหนังตะลุง ที่วางแบบบทรวมทั้งการแสดงโดยยิ่งไปกว่านั้นเพื่องานนี้ โดยตั้งใจให้เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษา อาจารย์บรรณารักษ์ นำวิชาความรู้ที่ได้ไปดัดแปลงกับการเล่าเรียนการสอนให้สอดคล้องกับชุมชนของตนเอง แล้วก็โครงงานมอบหนังสือให้แก่ห้องหนังสือนี้ก็ดำเนินมาอย่างสม่ำเสมอมั่นคงในอุดมการณ์
จนถึงกำเนิดเป็นครั้งที่ 8 (27 เดือนธันวาคม 2559) ชื่อโครงงานมอบหนังสือนิทานสองภาษา “นิทานแสนเพลิดเพลิน : เพื่อห้องหนังสือของหนู (ภาคใต้)” (ค่า 8 ล้านบาท)
ครั้งที่ 9 (4 เดือนมกราคม 2561) ชื่อโครงงานมอบหนังสือชุด ‘ท่องโลกจินตนาการกับ IDBY (BE WHAT YOU LOVE)’ (ราคา 8 ล้านบาท)
ครั้งที่ 10 (19 เดือนธันวาคม 2562) ใช้ชื่อว่า แผนการมอบหนังสือชุด “นิทานเด็ก-วรรณกรรมเยาวชนนานาประเทศ สานสายสัมพันธ์รักในครอบครัว” รวมหนังสือเสริมประสบการณ์ชีวิต (ราคา 8 ล้านบาท)
จนกระทั่งครั้งที่ 11 (17 เดือนธันวาคม 2563) กับโครงงานมอบหนังสือชุด “เปิดโลกวิทยาศาสตร์ – สังคมศาสตร์ แก่เด็กแล้วก็เยาวชน” (ราคา 8 ล้านบาท) ในงานยังได้มีการจำลองแบบทดสอบด้านวิทยาศาสตร์ให้คุณครูที่เดินทางมารับหนังสือ ได้นำไปเผยแพร่ถึงแม้ว่าจะผู้เรียน รวมทั้งการเปิดโลกวิทยาศาตร์นอกตำราเรียน แต่ว่าอ่านบันเทิงใจในแบบเรียนเสริมที่จะสามารถช่วยให้เด็กได้มีความเจริญ วิชาความรู้แล้วก็ความรู้ความเข้าใจในอนาคตจากการอ่านอีกด้วย
ปัจจุบันครั้งที่ 12 (19 เดือนมกราคม 2564) กับโครงงานมอบหนังสือชุด “หนังสือเพื่อชีวิต รวมทั้งจินตนาการ” ได้มีการสร้างหนังสั้นที่ให้ข้อคิดเตือนใจจากการอ่าน การรักการอ่าน ให้อะไรมากยิ่งกว่าที่จินตนาการไว้เสียอีก ซึ่งเป็นนิทานสองภาษา ทั้งยังภาษาไทยรวมทั้งภาษาอังกฤษ Good Habit Series เพื่อเด็กตื่นตัวเรื่องภาษารวมทั้งปลูกฝังนิสัย, หนังสือเพื่อชีวิตรวมทั้งจินตนาการ เรื่องเกี่ยวกับประสบการณ์และก็การผลิตจินตนาการใหม่ๆและก็หนังสือชุดบ้านเล็กในป่าใหญ่ ปลูกฝังเรื่องของความดีแล้วก็หลักคิด ดังนี้ ใน 3 ชุดนี้มีความผสมอีกทั้งเรื่องยุคใหม่ จินตนาการ แล้วก็หลักคิดเดิม ซึ่งมั่นใจว่ายังมีคุณค่าในสังคมยุคใหม่ รวมทั้งการมอบหนังสือผ่านระบบ Zoom ที่มีผู้อำนวยการสถานศึกษาร่วมกว่า 300 ที่ทั่วราชอาณาจักร
ทั้งสิ้นนี้เป็นความคิดและก็ความมุ่งมั่นของคณะทำงานที่อยากให้แผนการนี้เป็นเสมือนแผนที่นำทางเปิดโลกวิชาความรู้ที่ไม่สิ้นสุดแล้วก็มีเรื่องมีราวราวที่บันเทิงใจ พร้อมให้ทุกคนเผชิญภัย ศึกษา เติบโตไปพร้อมทั้งหนังสือดีๆเพื่อชีวิตที่มีคุณภาพถัดไป
ถอดรหัสงานมอบหนังสือหอสมุดอย่างไรให้มีสาระกับเด็กๆ แผนการมอบหนังสือให้กับหอสมุดสถานที่เรียนทั่วทั้งประเทศที่แบงค์กรุงเทวดา ร่วมกับสถานที่พิมพ์บทกลอนสาส์น จัดขึ้นสม่ำเสมอมาถึง 12 ปี โดยมีหนังสือหลายหมื่นเล่มกระจัดกระจายไปทั่วห้องหนังสือสถานที่เรียนในประเทศไทยแล้วหลายพันที่ การมอบหนังสือให้กับสถานศึกษาอีกทั้งในจ.กรุงเทพฯ และก็ชนบทในโครงงานนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในแผนการ CSR ที่แบงค์กรุงเทวดา ให้ความเอาใจใส่มากมายก่ายกอง ด้วยเหตุว่าแลเห็นว่าการอ่านเป็นหลักฐานการศึกษาวิจัยที่ดีที่จะทำให้เปิดโลกวิชาความรู้รวมทั้งจินตนาการของเด็กๆได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยเหตุดังกล่าวหน้าที่การคัดสรรหนังสือที่ดีแล้วก็เหมาะสมกับผู้เรียนก็เลยเป็นหน้าที่ของสถานที่พิมพ์กวีสาส์น ที่จะต้องทำการบ้านอย่างมาก โดยในแต่ละปีเรื่องการมอบหนังสือจะนาๆประการ เพื่อหนังสือที่มีหลายหมวดได้เข้าถึงผู้เรียนและก็ปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์ นายเอื้อเฟื้อ เตชะผู้สร้าง กรรมการผู้จัดการ สถานที่พิมพ์บทกลอนสาส์น เล่าถึงกรรมวิธีการเลือกหัวข้อหนังสือในแต่ละปีเพื่อกำเนิดไม่เหมือนกันและไม่ซ้ำซาก และก็โดยมากเป็นหนังสือแปลมาจากทั้งโลก เป็นหนังสือที่มีคุณประโยชน์รวมทั้งหาอ่านทั่วๆไปมิได้ ด้วยเหตุดังกล่าวค่าของหนังสือไม่ใช่แค่เป็นหนังสือที่ได้รับไปฟรีๆแม้กระนั้นเป็นหนังสือดีๆที่เด็กควรจะมีจังหวะได้เข้าถึง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของแบงค์กรุงเทวดา ที่ต้องการให้นำของใหม่ๆวิชาความรู้ที่ทันยุคทันสมัยมาช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับเด็กๆได้ทำความเข้าใจอย่างไม่จำกัดภายใต้ข้อกำหนดที่สถานที่เรียนหลายที่จำเป็นต้องพบเจอ โครงงานนี้ได้เวลาจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พุทธศักราช2553 ใช้ชื่อว่า แผนการมอบหนังสือชุด “ทรัพย์สินสิ่งที่มีราคา” ระดับประถมศึกษา ชุด ปรับปรุงค่าชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ค่า 4 ล้านบาท) ในคราวนี้ ได้ดำเนินกิจกรรม : การฝึกฝนการใช้หนังสือ ชุด “ทรัพย์สินของล้ำค่า” ชุด ปรับปรุงค่าชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้รับเกียรติยศจาก คำเล่าลือรัตน์ในจังหวัดระนอง ซึ่งในตอนนั้นด้อยกว่าผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ที่จุฬาลงแขนณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ความเข้าใจแก่คณะครูที่ร่วมกิจกรรมในตอนนั้น …
ถอดรหัสงานมอบหนังสือหอสมุดอย่างไรให้มีสาระกับเด็กๆ แผนการมอบหนังสือให้กับหอสมุดสถานที่เรียนทั่วทั้งประเทศที่แบงค์กรุงเทวดา ร่วมกับสถานที่พิมพ์บทกลอนสาส์น จัดขึ้นสม่ำเสมอมาถึง 12 ปี โดยมีหนังสือหลายหมื่นเล่มกระจัดกระจายไปทั่วห้องหนังสือสถานที่เรียนในประเทศไทยแล้วหลายพันที่ การมอบหนังสือให้กับสถานศึกษาอีกทั้งในจ.กรุงเทพฯ และก็ชนบทในโครงงานนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในแผนการ CSR ที่แบงค์กรุงเทวดา ให้ความเอาใจใส่มากมายก่ายกอง ด้วยเหตุว่าแลเห็นว่าการอ่านเป็นหลักฐานการศึกษาวิจัยที่ดีที่จะทำให้เปิดโลกวิชาความรู้รวมทั้งจินตนาการของเด็กๆได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยเหตุดังกล่าวหน้าที่การคัดสรรหนังสือที่ดีแล้วก็เหมาะสมกับผู้เรียนก็เลยเป็นหน้าที่ของสถานที่พิมพ์กวีสาส์น ที่จะต้องทำการบ้านอย่างมาก โดยในแต่ละปีเรื่องการมอบหนังสือจะนาๆประการ เพื่อหนังสือที่มีหลายหมวดได้เข้าถึงผู้เรียนและก็ปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์ นายเอื้อเฟื้อ เตชะผู้สร้าง กรรมการผู้จัดการ สถานที่พิมพ์บทกลอนสาส์น เล่าถึงกรรมวิธีการเลือกหัวข้อหนังสือในแต่ละปีเพื่อกำเนิดไม่เหมือนกันและไม่ซ้ำซาก และก็โดยมากเป็นหนังสือแปลมาจากทั้งโลก เป็นหนังสือที่มีคุณประโยชน์รวมทั้งหาอ่านทั่วๆไปมิได้ ด้วยเหตุดังกล่าวค่าของหนังสือไม่ใช่แค่เป็นหนังสือที่ได้รับไปฟรีๆแม้กระนั้นเป็นหนังสือดีๆที่เด็กควรจะมีจังหวะได้เข้าถึง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของแบงค์กรุงเทวดา ที่ต้องการให้นำของใหม่ๆวิชาความรู้ที่ทันยุคทันสมัยมาช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับเด็กๆได้ทำความเข้าใจอย่างไม่จำกัดภายใต้ข้อกำหนดที่สถานที่เรียนหลายที่จำเป็นต้องพบเจอ โครงงานนี้ได้เวลาจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พุทธศักราช2553 ใช้ชื่อว่า แผนการมอบหนังสือชุด “ทรัพย์สินสิ่งที่มีราคา” ระดับประถมศึกษา ชุด ปรับปรุงค่าชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ค่า 4 ล้านบาท) ในคราวนี้ ได้ดำเนินกิจกรรม : การฝึกฝนการใช้หนังสือ ชุด “ทรัพย์สินของล้ำค่า” ชุด ปรับปรุงค่าชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยได้รับเกียรติยศจาก คำเล่าลือรัตน์ในจังหวัดระนอง ซึ่งในตอนนั้นด้อยกว่าผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ที่จุฬาลงแขนณ์มหาวิทยาลัย มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ความเข้าใจแก่คณะครูที่ร่วมกิจกรรมในตอนนั้น …