
ดาวโจนส์ รู้สึกตัวบิดบวกข้างหลังสหรัฐออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นด่านศุลกากร
-
by laymayong
- 272
สภาวะตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดาวโจนส์ ปิดบวก 185.28 จุด รับความมุ่งมาดสหรัฐออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นด่านศุลกากร
วันนี้ (2 ธันวาคม 63)ดรรชนีดาวโจนส์ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืน (1 ธันวาคม) ในขณะที่ดรรชนี S&P500 รวมทั้ง Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ตอบรับรายงานที่ว่านายสตีเวน มนูเคยชิน รัฐมนตรีคลังเก็บของสหรัฐ แล้วก็นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนต่อต้านเชื้อไวรัสวัววิด-19 และก็ข้อมูลภาคการสร้างที่อดทนเกินคาดของจีน
ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,823.92 จุด มากขึ้น 185.28 จุด หรือ +0.63% ในเวลาที่ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 3,662.45 จุด มากขึ้น 40.82 จุด หรือ +1.13% ส่วนดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 12,355.11 จุด มากขึ้น 156.37 จุด หรือ +1.28%
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเปิดฉากการค้าขายวันแรกของเดือนเดือนธันวาคมอย่างครึกครื้น ภายหลังนายมนูเคยชินเผยออกมาว่า เขาจะปรึกษาหารือกับนางเพโลซีเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ตามคำแนะนำของวุฒิสภา เพื่อแก้ไขประชากรแล้วก็ภาคธุรกิจที่ได้รับผลพวงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด-19
ข่าวสารดังที่กล่าวมาแล้วทำให้นักลงทุนมีหวังว่า ที่ประชุมพรรคคองเกรสจะออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เร็วนี้ๆนี้ ยิ่งกว่านั้น ตลาดยังได้ต้นสายปลายเหตุบวกจากรายงานที่ว่า ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทขายยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ รวมทั้ง BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทขายยาของเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องต่อที่ทำการยาที่ยุโรป (EMA) เพื่อขออนุมัติการจำหน่ายวัคซีนต้านทานเชื้อไวรัสวัววิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีรีบด่วน ซึ่งแม้ EMA ให้การอนุมัติ ก็จะทำให้ไฟเซอร์สามารถใช้วัคซีนดังกล่าวมาแล้วข้างต้นในยุโรปก่อนท้ายปีนี้
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจจีน โดยดรรชนีผู้จัดการทางด้านฝ่ายการจัดซื้อ (PMI) ภาคการสร้างของจีนซึ่งมาร์กิตทำร่วมกับไฉสิน พุ่งขึ้นสัมผัสระดับ 54.9 ในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 53.6 ในเดือนเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นการขยายตัวเร็วทันใจที่สุดในรอบ 10 ปี แล้วก็สูงขึ้นมากยิ่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเดาว่าจะอยู่ที่ 53.5
หุ้นทั้งยัง 11 กรุ๊ปที่คำนวณในดรรชนี S&P500 ปรับนิสัยขึ้น นำโดยหุ้นกรุ๊ปเทคโนโลยีแล้วก็การติดต่อสื่อสาร โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ทะยานขึ้น 3.46% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.33% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 2.83% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 3.08% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 1%
หุ้นกรุ๊ปแบงค์พุ่งขึ้น ภายหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 0.9% เมื่อคืน โดยหุ้นแบงค์เวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นธนาคาร ออฟ อเมริกา ปรับนิสัยขึ้น 1.88% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดีดขึ้น 1.58% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ บวก 1.2% หุ้นสิตี้กลุ่ม มากขึ้น 0.73%
หุ้นไมครอน เทคโนโลยี ผู้สร้างชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 4.7% ข้างหลังบริษัทปรับเพิ่มคาดคะเนกำไรแล้วก็รายได้ในไตรมาสแรกของปี 2564
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 3% เนื่องมาจากนักลงทุนขานตอบข่าวสารหุ้นของบริษัทเทสลาที่กำลังจะได้รับการคำนวณในดรรชนี S&P 500 ในวันที่ 21 เดือนธันวาคมนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเผยเมื่อคืน สถาบันจัดแจงด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เผยออกมาว่า ดรรชนีภาคการสร้างของสหรัฐปรับนิสัยลงสู่ระดับ 57.5 ในเดือนเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 59.3 ในเดือนตุลาคม ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดคะเนที่ระดับ58.0 อย่างไรก็ตาม ดรรชนีภาคการสร้างของสหรัฐยังคงอยู่สูงขึ้นมากยิ่งกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวการณ์ขยายตัว
ทางด้านเอชเอส มาร์กิต กล่าวมาว่า ดรรชนีผู้จัดการทางด้านฝ่ายการจัดซื้อ (PMI) ภาคการสร้างของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 56.7 ในเดือนเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่แมื่อเดือนกันยายน2557 จากระดับ 53.4 ในเดือนตุลาคม โดยดรรชนี PMI สหรัฐปรับพฤติกรรมขึ้นต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 7
ในตอนที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวมาว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างมากขึ้น 1.3% ในเดือนเดือนตุลาคม ภายหลังจากน้อยลง 0.5% ในเดือนเดือนกันยายน ด้านนักวิเคราะห์คาดหมายก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะมากขึ้น 0.8% ในเดือนตุลาคม
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีระบุเผยในอาทิตย์นี้อาทิเช่น จำนวนจ้างแรงงานภาคเอกชนเดือนเดือนพฤศจิกายนจาก ADP, ดรรชนีภาวการณ์ธุรกิจนิวยอร์กเดือนเดือนพฤศจิกายนจากสถาบันจัดแจงด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ปริมาณผู้ขอรับผลประโยชน์ตกงานรายสัปดาห์, ดรรชนีผู้จัดการของฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นท้ายสุดเดือนเดือนพฤศจิกายนจากมาร์กิต, ดรรชนีภาคบริการเดือนพฤศจิกายนจากสถาบันจัดแจงด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนตุลาคม แล้วก็จำนวนว่าจ้างนอกภาคเกษตรเดือนเดือนพฤศจิกายน
ติดตามข่าวสารตรงนี้
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline
สภาวะตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดาวโจนส์ ปิดบวก 185.28 จุด รับความมุ่งมาดสหรัฐออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นด่านศุลกากร วันนี้ (2 ธันวาคม 63)ดรรชนีดาวโจนส์ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืน (1 ธันวาคม) ในขณะที่ดรรชนี S&P500 รวมทั้ง Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ตอบรับรายงานที่ว่านายสตีเวน มนูเคยชิน รัฐมนตรีคลังเก็บของสหรัฐ แล้วก็นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนต่อต้านเชื้อไวรัสวัววิด-19 และก็ข้อมูลภาคการสร้างที่อดทนเกินคาดของจีน ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,823.92 จุด มากขึ้น 185.28 จุด หรือ +0.63% ในเวลาที่ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 3,662.45 จุด มากขึ้น 40.82 จุด หรือ +1.13% ส่วนดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 12,355.11 จุด มากขึ้น 156.37 จุด หรือ +1.28% ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเปิดฉากการค้าขายวันแรกของเดือนเดือนธันวาคมอย่างครึกครื้น ภายหลังนายมนูเคยชินเผยออกมาว่า เขาจะปรึกษาหารือกับนางเพโลซีเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ตามคำแนะนำของวุฒิสภา เพื่อแก้ไขประชากรแล้วก็ภาคธุรกิจที่ได้รับผลพวงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด-19 ข่าวสารดังที่กล่าวมาแล้วทำให้นักลงทุนมีหวังว่า ที่ประชุมพรรคคองเกรสจะออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เร็วนี้ๆนี้ ยิ่งกว่านั้น ตลาดยังได้ต้นสายปลายเหตุบวกจากรายงานที่ว่า ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทขายยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ รวมทั้ง BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทขายยาของเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องต่อที่ทำการยาที่ยุโรป (EMA) เพื่อขออนุมัติการจำหน่ายวัคซีนต้านทานเชื้อไวรัสวัววิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีรีบด่วน ซึ่งแม้ EMA ให้การอนุมัติ ก็จะทำให้ไฟเซอร์สามารถใช้วัคซีนดังกล่าวมาแล้วข้างต้นในยุโรปก่อนท้ายปีนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจจีน โดยดรรชนีผู้จัดการทางด้านฝ่ายการจัดซื้อ…
สภาวะตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดาวโจนส์ ปิดบวก 185.28 จุด รับความมุ่งมาดสหรัฐออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นด่านศุลกากร วันนี้ (2 ธันวาคม 63)ดรรชนีดาวโจนส์ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืน (1 ธันวาคม) ในขณะที่ดรรชนี S&P500 รวมทั้ง Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ตอบรับรายงานที่ว่านายสตีเวน มนูเคยชิน รัฐมนตรีคลังเก็บของสหรัฐ แล้วก็นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินกว่า 9 แสนล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนต่อต้านเชื้อไวรัสวัววิด-19 และก็ข้อมูลภาคการสร้างที่อดทนเกินคาดของจีน ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,823.92 จุด มากขึ้น 185.28 จุด หรือ +0.63% ในเวลาที่ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 3,662.45 จุด มากขึ้น 40.82 จุด หรือ +1.13% ส่วนดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 12,355.11 จุด มากขึ้น 156.37 จุด หรือ +1.28% ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเปิดฉากการค้าขายวันแรกของเดือนเดือนธันวาคมอย่างครึกครื้น ภายหลังนายมนูเคยชินเผยออกมาว่า เขาจะปรึกษาหารือกับนางเพโลซีเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ตามคำแนะนำของวุฒิสภา เพื่อแก้ไขประชากรแล้วก็ภาคธุรกิจที่ได้รับผลพวงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวัววิด-19 ข่าวสารดังที่กล่าวมาแล้วทำให้นักลงทุนมีหวังว่า ที่ประชุมพรรคคองเกรสจะออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เร็วนี้ๆนี้ ยิ่งกว่านั้น ตลาดยังได้ต้นสายปลายเหตุบวกจากรายงานที่ว่า ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทขายยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ รวมทั้ง BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทขายยาของเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องต่อที่ทำการยาที่ยุโรป (EMA) เพื่อขออนุมัติการจำหน่ายวัคซีนต้านทานเชื้อไวรัสวัววิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีรีบด่วน ซึ่งแม้ EMA ให้การอนุมัติ ก็จะทำให้ไฟเซอร์สามารถใช้วัคซีนดังกล่าวมาแล้วข้างต้นในยุโรปก่อนท้ายปีนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจจีน โดยดรรชนีผู้จัดการทางด้านฝ่ายการจัดซื้อ…