
ดาวโจนส์ ปิดหล่น 271.73 จุด รับข้อมูลด่านศุลกากรซบเซา
-
by laymayong
- 284
สภาวะตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดาวโจนส์ ปิดตก 271.73 จุด จากแรงขายทำเงิน,ข้อมูลด่านศุลกากรซบเซา
วันนี้(1 เดือนธันวาคม 63)ดรรชนี ดาวโจนส์ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดหล่นลงเมื่อคืน (30 เดือนพฤศจิกายน) เนื่องมาจากนักลงทุนเทขายทำเงินภายหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างกล้าแกร่งในตอนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความอ่อนแอของข้อมูลตลาดที่อยู่ที่อาศัยของสหรัฐ อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อไตร่ตรองตลอดเดือนเดือนพฤศจิกายนพบว่า ดรรชนีดาวโจนส์ทำสถิติทุกเดือนที่หนักแน่นที่สุดนับจากปี 2530
ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,638.64 จุด ต่ำลง 271.73 จุด หรือ -0.91% ในตอนที่ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 3,621.63 จุด ต่ำลง 16.72 จุด หรือ -0.46% ส่วนดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 12,198.74 จุด น้อยลง 7.11 จุด หรือ -0.06%
ดรรชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนเปลี้ยเพลียแรงลงเมื่อคืน เพราะว่านักลงทุนเทขายได้กำไรข้างหลังราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างหนักแน่นในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยส่วนมากมีเหตุมาจากความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านทานเชื้อไวรัสวัววิด-19 แล้วก็ความเด่นชัดของแนวทางการบ้านการเมืองในสหรัฐ ภายหลังผู้นำโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มขั้นตอนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐคนใหม่
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสัมพันธ์คนกลางอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ซึ่งกล่าวว่า ดรรชนีการทำข้อตกลงขายบ้านที่รอคอยปิดแนวทางการขาย (pending home sales) น้อยลง 1.1% ในเดือนเดือนตุลาคม เมื่อเปรียบเทียบทุกเดือน และก็สวนนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดรรชนีจะดีดตัวขึ้น 1.0% โดยดรรชนีปรับนิสัยลงเป็นเดือนที่ 2 ต่อเนื่องกัน เพราะว่าผลพวงของราคาบ้านที่พุ่งขึ้น ถึงแม้ว่าอัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจำนำอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำก็ตาม
ข้อมูลดังที่กล่าวถึงมาแล้วนำมาซึ่งการทำให้หุ้นกรุ๊ปธุรกิจที่พักอาศัยตกลง โดยหุ้นพัลท์กลุ่ม หล่นลง 1.65% หุ้นเลนท้องนาร์ คอร์ป ตรงลง 2.38% หุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน ตกลง 1.95% หุ้นเมริเทจ โฮมส์ ตกลง 2.33% หุ้นโทลล์ บราคุณร์ส ปรับนิสัยลง 0.4%
หุ้น 9 ใน 11 กรุ๊ปที่คำนวณในดรรชนี S&P500 หล่นลง นำโดยหุ้นกรุ๊ปพลังงาน โดยหุ้นเอ็กซอน โมใบเสร็จรับเงิน หล่นลง 5.2% หุ้นเชฟรอน ตรงลง 5.2% หุ้นวัวโนวัวฟิลลิปส์ ทรุดลง 7.53% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ตกลง 5.5%
อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อพินิจพิเคราะห์ตลอดเดือนเดือนพฤศจิกายน ดรรชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 11.9% ซึ่งเป็นการปรับพฤติกรรมขึ้นรายเดือนที่เข้มแข็งที่สุดตั้งแต่แมื่อปี 2530 นอกจากนั้น เดือนพฤศจิกายนยังเป็นเดือนที่ดรรชนีดาวโจนส์ทำสถิติทะยานขึ้นเหนือระดับ 30,000 จุดทีแรกเป็นประวัติการณ์ ส่วนดรรชนี S&P500 ปรับนิสัยขึ้น 10.8% แล้วก็ดรรชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 11.8% ในเดือนพฤศจิกายน
หุ้นไอเอชเอส มาร์กิต ผู้ให้บริการข้อมูลเรื่องการเงิน พุ่งขึ้น 7.49% ภายหลังจากเอสแอนด์พี โกลบอล อิงค์ ตกลงซื้อธุรกิจการค้าไอเอชเอส มาร์กิต ในวงเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นกติกาการซื้อกิจการค้าที่มีวงเงินสูงสุดในปี 2563
หุ้นกรุ๊ปเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) พุ่งขึ้น 6.27% หุ้นอินเทล มากขึ้น 1.9% หุ้น Nvidia บวก 1.06% หุ้น Xilinx ผู้สร้างชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 5.86%
หุ้นโมเดอร์ที่นา พุ่งขึ้น 20.24% ขานตอบข่าวสารโมเดอร์ที่นาจัดเตรียมยื่นเรื่องต่อที่ทำการของกินและก็ยาสหรัฐ (FDA) เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต่อต้านเชื้อไวรัสวัววิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีเร่งด่วน โดยการยื่นขออนุมัติดังที่กล่าวถึงมาแล้ว จะมีผลให้คนประเทศอเมริกาได้รับวัคซีนของโมเดอร์ทุ่งนาในเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีระบุเผยในอาทิตย์นี้ ซึ่งอย่างเช่น ดรรชนีผู้จัดการทางด้านฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการสร้างขั้นท้ายสุดเดือนเดือนพฤศจิกายนจากมาร์กิต, ดรรชนีภาคการสร้างเดือนพฤศจิกายน จากสถาบันจัดแจงด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนตุลาคม, จำนวนจ้างแรงงานภาคเอกชนเดือนพฤศจิกายนจาก ADP, ดรรชนีสภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนพฤศจิกายนจากสถาบันจัดแจงด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ปริมาณผู้ขอรับผลประโยชน์ไม่มีงานทำรายสัปดาห์, ดรรชนีผู้จัดการทางด้านฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นตอนสุดท้ายเดือนเดือนพฤศจิกายนจากมาร์กิต, ดรรชนีภาคบริการเดือนเดือนพฤศจิกายนจากสถาบันจัดแจงด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนเดือนตุลาคม และก็จำนวนว่าจ้างนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายน
ติดตามข่าวสารตรงนี้
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline
สภาวะตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดาวโจนส์ ปิดตก 271.73 จุด จากแรงขายทำเงิน,ข้อมูลด่านศุลกากรซบเซา วันนี้(1 เดือนธันวาคม 63)ดรรชนี ดาวโจนส์ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดหล่นลงเมื่อคืน (30 เดือนพฤศจิกายน) เนื่องมาจากนักลงทุนเทขายทำเงินภายหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างกล้าแกร่งในตอนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความอ่อนแอของข้อมูลตลาดที่อยู่ที่อาศัยของสหรัฐ อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อไตร่ตรองตลอดเดือนเดือนพฤศจิกายนพบว่า ดรรชนีดาวโจนส์ทำสถิติทุกเดือนที่หนักแน่นที่สุดนับจากปี 2530 ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,638.64 จุด ต่ำลง 271.73 จุด หรือ -0.91% ในตอนที่ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 3,621.63 จุด ต่ำลง 16.72 จุด หรือ -0.46% ส่วนดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 12,198.74 จุด น้อยลง 7.11 จุด หรือ -0.06% ดรรชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนเปลี้ยเพลียแรงลงเมื่อคืน เพราะว่านักลงทุนเทขายได้กำไรข้างหลังราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างหนักแน่นในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยส่วนมากมีเหตุมาจากความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านทานเชื้อไวรัสวัววิด-19 แล้วก็ความเด่นชัดของแนวทางการบ้านการเมืองในสหรัฐ ภายหลังผู้นำโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มขั้นตอนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐคนใหม่ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสัมพันธ์คนกลางอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ซึ่งกล่าวว่า ดรรชนีการทำข้อตกลงขายบ้านที่รอคอยปิดแนวทางการขาย (pending home sales) น้อยลง 1.1% ในเดือนเดือนตุลาคม เมื่อเปรียบเทียบทุกเดือน และก็สวนนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดรรชนีจะดีดตัวขึ้น 1.0% โดยดรรชนีปรับนิสัยลงเป็นเดือนที่ 2 ต่อเนื่องกัน เพราะว่าผลพวงของราคาบ้านที่พุ่งขึ้น ถึงแม้ว่าอัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจำนำอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำก็ตาม ข้อมูลดังที่กล่าวถึงมาแล้วนำมาซึ่งการทำให้หุ้นกรุ๊ปธุรกิจที่พักอาศัยตกลง โดยหุ้นพัลท์กลุ่ม หล่นลง 1.65% หุ้นเลนท้องนาร์ คอร์ป ตรงลง 2.38% หุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน ตกลง 1.95% หุ้นเมริเทจ โฮมส์ ตกลง 2.33% หุ้นโทลล์ บราคุณร์ส ปรับนิสัยลง 0.4% หุ้น 9 ใน 11 กรุ๊ปที่คำนวณในดรรชนี S&P500 หล่นลง…
สภาวะตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ดาวโจนส์ ปิดตก 271.73 จุด จากแรงขายทำเงิน,ข้อมูลด่านศุลกากรซบเซา วันนี้(1 เดือนธันวาคม 63)ดรรชนี ดาวโจนส์ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดหล่นลงเมื่อคืน (30 เดือนพฤศจิกายน) เนื่องมาจากนักลงทุนเทขายทำเงินภายหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างกล้าแกร่งในตอนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ยิ่งไปกว่านี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความอ่อนแอของข้อมูลตลาดที่อยู่ที่อาศัยของสหรัฐ อย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อไตร่ตรองตลอดเดือนเดือนพฤศจิกายนพบว่า ดรรชนีดาวโจนส์ทำสถิติทุกเดือนที่หนักแน่นที่สุดนับจากปี 2530 ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,638.64 จุด ต่ำลง 271.73 จุด หรือ -0.91% ในตอนที่ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 3,621.63 จุด ต่ำลง 16.72 จุด หรือ -0.46% ส่วนดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 12,198.74 จุด น้อยลง 7.11 จุด หรือ -0.06% ดรรชนีดาวโจนส์ปิดตลาดอ่อนเปลี้ยเพลียแรงลงเมื่อคืน เพราะว่านักลงทุนเทขายได้กำไรข้างหลังราคาหุ้นทะยานขึ้นอย่างหนักแน่นในตอนก่อนหน้าที่ผ่านมา โดยส่วนมากมีเหตุมาจากความก้าวหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านทานเชื้อไวรัสวัววิด-19 แล้วก็ความเด่นชัดของแนวทางการบ้านการเมืองในสหรัฐ ภายหลังผู้นำโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มขั้นตอนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ผู้นำสหรัฐคนใหม่ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของสัมพันธ์คนกลางอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ซึ่งกล่าวว่า ดรรชนีการทำข้อตกลงขายบ้านที่รอคอยปิดแนวทางการขาย (pending home sales) น้อยลง 1.1% ในเดือนเดือนตุลาคม เมื่อเปรียบเทียบทุกเดือน และก็สวนนักวิเคราะห์ที่คาดว่าดรรชนีจะดีดตัวขึ้น 1.0% โดยดรรชนีปรับนิสัยลงเป็นเดือนที่ 2 ต่อเนื่องกัน เพราะว่าผลพวงของราคาบ้านที่พุ่งขึ้น ถึงแม้ว่าอัตราค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจำนำอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำก็ตาม ข้อมูลดังที่กล่าวถึงมาแล้วนำมาซึ่งการทำให้หุ้นกรุ๊ปธุรกิจที่พักอาศัยตกลง โดยหุ้นพัลท์กลุ่ม หล่นลง 1.65% หุ้นเลนท้องนาร์ คอร์ป ตรงลง 2.38% หุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน ตกลง 1.95% หุ้นเมริเทจ โฮมส์ ตกลง 2.33% หุ้นโทลล์ บราคุณร์ส ปรับนิสัยลง 0.4% หุ้น 9 ใน 11 กรุ๊ปที่คำนวณในดรรชนี S&P500 หล่นลง…